สมรักษ์ ตอบแทน เบสท์-ตงตง รักจริงหรือโปรโมต รับเตือนลูกสาวทำอะไรให้พอดี
หัวอกคนเป็นพ่อ ก็ต้องหวงลูกสาวเป็นธรรมดา และยิ่งลูกสาวทั้งสวยและเก่ง คนเป็นพ่อก็ยิ่งต้องห่วง ซึ่ง สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้ตอบคำถามที่หลายๆคนอยากทราบเรื่องความรักของ เบสท์ รักษ์วนีย์ แล้วก็ ตงตง กฤษกร ว่าทั้งคู่รักกันจริงหรือเพียงโปรโมตในรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ว่า
แต่ก่อนหวงมาก ใครมาจีบหน่อยสมรักษ์เอาตายเลย เห็นในเวลานี้เขาไปทำงาน ถ่ายรูปคู่กับตงตงสุดหล่อ เพราะอะไรตอนนี้ยอมล่ะ?
เป็นธรรมดาครับผม ที่เด็กก้าวเข้าสู่วัยรุ่นผมจะต้องดูแลลูก ผมอย่างดีคอยระวัง
ผมก็เลยต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา เพราะว่าลูกผมสวย ตอนเด็ก ๆ ห่วงลูกสาวมากครับไปส่งที่โรงเรียน และรับกลับบ้าน ซึ่งหลายคนก็จะไม่ค่อยกล้ามายุ่งกับลูกผมอยู่แล้ว เพราะเขารู้กันว่า ผมเปิดค่ายมวย เพียงเห็นผมเขาก็กลัวกันแล้วครับ
คนสงสัยกันตงตงกับเบสท์รักกันจริง ๆ ไหม ผ่านไหมว่าที่ลูกเขยคนนี้?
ก็ผ่านครับ รักกันจริง ๆ ครับผม ผมเองก็ส่งเสริมเนื่องจากว่าเขาทั้งคู่ผ่านอะไรร่วมกันมา ก็มากมาย ที่สำคัญตงตงก็เป็นคนดีครับ เขาไม่ได้มาร้ายหรือรังแกอะไรลูกผม ลูกเรารักใครเราก็รักเช่นกันครับ
ในตอนนี้มีวี่แววจะสมรสกันบ้างไหม?
มันเป็นเรื่องของอนาคตครับผม ผมก็บอกตงตงเขาก็ทำมาหากิน ทำธุรกิจของเขาขายเสื้อ ผมก็บอกว่า เฮ้ย ตงตง ถ้าหากขายเสื้อได้แสนตัวนะ เตรียมขันหมากมาเลย (ยิ้ม)
มีคนบอกว่าเบสท์ทำคอนเทนต์ความรักเพื่อโปรโมตจริงไหม รักกันจริงหรือไม่?
ก็รักจริงครับ ถ้ารักไม่จริงผมเตะก้านคอ (หัวเราะ)
เราเคยเตือนเขาไหม พองามนะ เพราะว่ายังไม่ตกไม่แต่ง?
เตือนบ้างครับผม บอกให้อยู่ในความพอเหมาะนะลูก (ยิ้ม)
สมรักษ์ คำสิงห์ เคลียร์ประเด็นโดนสังคมมองเกาะลูกกิน
จะต้องกล่าวว่า สมรักษ์ เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิง ที่ทำให้หลายๆคนแอบอิจฉา ที่เจ้าตัวนั้นมีลูกสาวทั้งสวยและก็เก่งอย่าง เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ได้ปิดหนี้ก้อนใหญ่ ให้กับครอบครัวด้วยการทำรายการยูทูบ กระทั่งทำให้ขณะนี้ครอบครัวลืมตาอ้าปาก มีชีวิตอย่างสุดสบาย
เพราะเหตุนี้ เลยทำให้คนในสังคมบางส่วน เห็นว่าสมรักสษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก เกาะลูกสาวกิน โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจ ในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 รวมทั้งตอบถึงเรื่องนี้ว่า
เล่าลูกให้ฟังหน่อยทำไม ถึงน่ารักช่วยพ่อทุกสิ่งทุกอย่าง?
ลูกผมตอนเด็ก ๆ ผมมั่นใจว่าผมสอนดี และก็ได้ลูกทั้ง 2 คน แบบเป็นลูกอภิชาตบุตร ที่จริงแล้วเขาทำงานทุกอย่างมาตั้งแต่เด็กแล้วอย่าง เบสท์อยากได้อะไร ตอนเด็ก ๆ นะ อยากได้เนี่ย หนูต้องไปร้องเพลงกับพ่อ ขึ้นเวทีกับพ่อ ถ้าไม่งั้นก็ไม่ได้ตังค์ จะต้องกล้า พ่อร้องเพลง ลูกเต้นไป เต้นมา เขาก็ได้ทิปแล้ว
สมมติผมได้ค่าตัว 3 หมื่น เอานี่ค่าตัวหนูนะ แบ่งกัน เขาก็เก็บ เด็กได้ตังค์ เขาก็จะเริ่มเก็บ อยากได้อะไรเขาก็จะเก็บตังค์ซื้อ คือสอนให้กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกนะครับ
ลูกชายก็เช่นเดียวกัน พอยูทูบออกมา ผมก็ไปรู้จัก อ.ประจักษ์ชัย ไหทองคํา โชว์ตัวเจอกันโดยบังเอิญ ยูทูบอะไรผมก็ยังงง เขาบอกเปิดเลยได้รายอย่างงั้นอย่างงี้ เปิดเลยมันเป็นช่องของตนเอง
ผมก็โทรบอกลูก เบสท์เปิดเป็นไหม เบสท์บอกเป็น เปิดให้พ่อหน่อย เบสท์บอกจะทำอะไร ผมก็บอกไปถ่ายน้องก่อนเลย ถ่ายน้องแตะฟุตบอล เพราะว่าซุปเปอร์สตาร์เด็ก ๆ เวลานี้ไม่มี มีแต่ซุปเปอร์สตาร์ใหญ่ ปั้นน้องชายให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ฟุตบอล
การเป็นยูทูบเบอร์หาเงินได้หลักล้าน มาช่วยพ่อเยอะๆ อย่างนี้จริงไหม?
มันก็ได้จริงครับผม พอได้ครับผม ผมไม่รู้เรื่องเลย (หัวเราะ) มีแต่แม่เขา เวลาผมไม่มีก็จะบอกเบสท์ พ่อขอสักหมื่นหนึ่ง เขาก็ปุ๊บเลย เบสท์พ่อขอสัก 5 หมื่น ปุ๊บเลย
เขาพูดกันพอลูกได้ดิบได้ดีมีเงิน เกาะลูกกินจริงไหม?
คนก็ว่ากันไป อันที่จริงแล้วผมบอกเอง เงินเขาได้เท่าไร ผมไม่ทราบ แต่ถ้าเกิดผมไม่มีเนี่ย เบสท์ขอตังค์ค่าน้ำมันรถหน่อยหมื่นหนึ่ง เบสท์พ่อจะใช้เงินตรงนี้ห้าหมื่น เท่านั้นเอง เบสท์สองพันอย่างงี้ แค่นั้นเอง แต่ว่าด้วยความเป็นพ่อ ถ้าเกิดไม่จำเป็นจริง ๆ เราก็ไม่เอาครับผม
ประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของฉายา ไม่ได้โม้
ไปรู้จักเจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” หรือ สมรักษ์ อดีตฮีโร่กำปั้น เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์คนแรกของไทย
สมรักษ์ เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น (ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านแฮด) เกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2516 ซึ่งเส้นทางมวยไทยของสมรักษ์ เริ่มขึ้นครั้งแรกที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาโนนสมบูรณ์ ด้วยเหตุที่สมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นสังเวียนมวยครั้งแรกขณะอายุได้ 7 ปี รวมทั้งได้ตระเวนชกตามเวทีงานวัดต่าง ๆ จนกระทั่งทั่ว กระทั่งได้รับการทาบทามจาก ณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าคณะณรงค์ยิมให้มาร่วมค่าย สมรักษ์ก็เลยขอขึ้นชกมวยไทยในชื่อ สมรักษ์ ณรงค์ยิม และก็เป็นนักมวยมีชื่อในแถบจังหวัดขอนแก่น
ด้านชีวิตครอบครัว สมรักษ์แต่งงานกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งสอง ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น โดยทั้งสองมีบุตร 2 คน คนโตเป็นหญิงชื่อ “เบสต์” และคนเล็กเป็นชายชื่อ “โบ๊ท”